TCP Spirit "อาสา อา Guard" แคมป์ปิ้งฮิมดอยเชียงดาว เรียนเรื่องราวป่าชุมชน 14-16 พฤศจิกายน 2568

# TCP Spirit
news-image

จาก Global Warming สู่ยุค Global Boiling จากภาวะโลกร้อนสู่ภาวะโลกเดือด

ทุกวันนี้เราจะเห็นว่าปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะอุณหภูมิที่ร้อนทุบสถิติใหม่ทุกปี ฝนที่ตกหนักจนน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ทำให้ทั้งผลผลิตและบ้านเรือนเสียหาย ในขณะที่ฤดูหนาวก็หนาวเหน็บแต่ผ่านไปเพียงไม่กี่วัน แต่ละฤดูกาลต้องเผชิญกับความท้าทายที่ต่างกัน สภาพอากาศที่ยากจะคาดเดาเหล่านี้ ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของคนทั่วโลก ผลผลิตข้าวไทยลดลง ในช่วงที่ผ่านมา ผลผลิตกาแฟทั่วโลกอาจลดลงอีกกว่าครึ่งหนึ่ง ข้าวปลาอาหารที่เราเคยได้กิน อาจไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนเดิมอีกต่อไป...ถ้าเราไม่เปลี่ยน!

ปีนี้ TCP Spirit เปิดรับอาสาที่จะร่วมกันเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้กับ "อาสา อา Guard" ที่จะพาอาสาไปเข้าใจปัญหาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เรียนรู้เรื่องการตรวจวัดคาร์บอนเครดิตจากป่าและการดูแลป่าของชุมชน เจาะลึกบริบทการทำการเกษตรของชุมชนเพื่อร่วมกันหาแนวทางในการจัดการปัญหา ร่วมกันสร้าง Guard ในการปกป้องโลกใบนี้ไปด้วยกัน

เปิดรับสมัครแล้ววันนี้กับค่ายอาสา TCP Spirit TCP Spirit "อาสา อา Guard" แคมป์ปิ้งฮิมดอยเชียงดาว เรียนเรื่องราวป่าชุมชน อาสาสมัครจะได้นั่งรถไฟสายเหนือแบบข้ามคืนผ่านอุโมงค์ดอยขุนตาล ชิมอาหารอาข่าสูตรพิเศษ นอนแคมป์ปิ้งริมดอยหลวงเชียงดาว และนั่งร้องเพลงรอบกองไฟให้อบอุ่นหัวใจ เช้าตื่นมารับหมอกก่อนไปลุยป่าชุมชน ณ ชุมชนบ้านป่าไผ่ อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่

ป่าชุมชนบ้านป่าไผ่ เป็นหนึ่งใน 16 ป่าชุมชน ของอำเภอเวียงแหง อำเภอเล็กๆ ทางตอนเหนือของเชียงใหม่ที่ล้อมรอบไปด้วยขุนเขา แม้ชาวบ้านจะดำรงชีพด้วยการทำการเกษตรเป็นหลัก แต่ป่าก็ยังคงเป็นแหล่งน้ำและแหล่งอาหารที่สำคัญของชุมชน ทุกปีชาวบ้านจะร่วมกันทำแนวกันไฟเพื่อปกป้องผืนป่าในหน้าแล้ง ลานกว้างที่ชาวบ้านมารวมตัวกันทุกปีคือ "ดงมะกอก" ภายใต้ต้นมะกอกใหญ่นี้กำลังจะเปิดเป็นลานกางเต็นท์เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ให้คนภายนอกได้มาเข้าใจวิถีชีวิตของคนกับป่า

"ก่อนหน้านี้ป่าชุมชนถูกมองเป็นแค่พื้นที่ แค่การเก็บของป่าหรือทำแนวกันไฟ แต่ระยะหลังมาป่าชุมชนเป็นเรื่องของการท่องเที่ยวมากขึ้น เป็นเรื่องของหลักสูตรการเรียนรู้กับชุมชน เรื่องคาร์บอนเครดิตอาจเป็นเรื่องใหม่ที่หลายคนยังไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนที่ดูแลป่าได้ พอเป็นแบบนี้ชาวบ้านก็สนใจและเกิดการรวมกลุ่มกันมากขึ้น" พี่นุ นุจิรัตน์ ปิวคำ เจ้าหน้าที่สมัชชาป่าชุมชนภาคเหนือกล่าว ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้อาสาจะได้ลงมือวัดคาร์บอนกันจริงๆ ว่ามันปล่อยมาจากไหนแล้วกักเก็บในต้นไม้ได้อย่างไร พร้อมทำแนวกันไฟร่วมกับชุมชนเพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงความสำคัญของกองทุนไฟป่า

ในขณะที่ป่าเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่เราต้องรักษาไว้ให้ได้ แต่แหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็ต้องลดด้วยเหมือนกัน อีกแหล่งปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่สำคัญของไทยคือ ภาคการเกษตร เช่น การเกิดมีเทนจากนาข้าว หรือการใส่ปุ๋ยเพื่อเร่งผลผลิต อาสาจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนอาข่า ณ บ้านผาลาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเข้าใจถึงรูปแบบและข้อจำกัดในการทำการเกษตร บริบทของชาวบ้านที่อยู่ห่างไกลจากตัวเมืองแต่เป็นผู้ผลิตข้าวปลาอาหารให้เรา แล้วเราจะช่วยชุมชนอย่างไรได้บ้าง?

TCP Spirit เป็นโครงการอาสาสมัครของกลุ่มธุรกิจ TCP ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มชั้นนำของไทยและของโลก เช่น กระทิงแดง เรดบูล เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม ไฮ่ x DHC เพียวริคุ และซันสแนค จึงอยากพาอาสาสมัครมาเข้าใจปัญหา อย่างสภาพอากาศในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM2.5 ที่เกิดขึ้นทุกปี ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น รวมถึงเข้าใจแนวคิดการแก้ไขปัญหาแบบ Nature-based Solutions และส่งต่อแรงบันดาลใจให้คนรอบๆ ตัวลุกขึ้นมาปกป้องอากาศไปด้วยกัน

มาร่วมปกป้องและสร้างพลังการเปลี่ยนแปลงนี้กับ TCP Spirit "อาสา อา Guard" แคมป์ปิ้งฮิมดอยเชียงดาว เรียนเรื่องราวป่าชุมชน

ภารกิจอาสา อา Guard

  • กิจกรรมวิกฤตโลกรวน 101: เราได้ทำความเข้าใจปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน เชื่อมโยงผลกระทบต่อตัวเราและภาพรวม ผ่านนักวิทยาศาสตร์ด้านการอนุรักษ์ ดร.เพชร มโนประวิตร ผู้เชี่ยวชาญและนักอนุรักษ์แนวหน้าของประเทศไทย ที่ทำงานในองค์กรอนุรักษ์ระดับโลกมาแล้ว
  • กิจกรรมพลังธรรมชาติ: เราจะเรียนรู้เกี่ยวกับแนวการแก้ปัญหาที่อาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐานหรือ Nature-based Solutions เราจะเห็นถึงพลังธรรมชาติที่คอยขับเคลื่อนและเกื้อหนุนโลกใบนี้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
  • ภารกิจ Climate Triforces 3 กลไกรับมือวิกฤต: เราจะได้ลงมือวางแปลงตัวอย่างต้นไม้ในป่า แบ่งกลุ่มเก็บข้อมูลการกักเก็บคาร์บอนของต้นไม้ เพื่อใช้ในการคำนวณและขึ้นทะเบียนคาร์บอนเครดิตให้กับชุมชน
  • ภารกิจอาสาป้องกันไฟ: เราจะช่วยกันกำจัดวัชพืชและจัดการพื้นที่ทำแนวกันไฟ หน้าแล้งที่จะมาถึงชาวบ้านจะได้ทำงานน้อยลงด้วย
  • ภารกิจนักสืบคาร์บอนในดิน: เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการปรับตัวทางเกษตรและวิถีชีวิตชุมชน ได้เก็บข้อมูลดินในไร่ถั่วดิน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไผ่ และผลไม้
  • โจทย์พิเศษ: เราจะได้รวมกลุ่มแก้ไขโจทย์พิเศษ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาธรรมชาติแบบองค์รวม เสนอแนวทางบรรเทาและปรับตัวภายใต้ภาวะโลกที่กำลังเดือด

พื้นที่ปฏิบัติการชุมชน

  • ชุมชนบ้านป่าไผ่ อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่
  • ชุมชนบ้านผาลาย อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

หลักสูตรเข้มข้น 3 วัน 2 คืน รับจำนวนจำกัด! เพียง 40 คน วันที่ 14-16 พฤศจิกายน 2568

ที่พัก

นอนเต็นท์ ณ ไร่ดอยเปียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

การเดินทาง

  1. เดินทางกับ TCP Spirit โดยรถไฟ

    ขาไป ขบวน 51 รถด่วน นัดพบที่ สถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน เวลา 21:30 น. (รถไฟออกเวลา 22.30 น.) ถึงปลายทาง สถานีรถไฟจังหวัดเชียงใหม่ วันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 12:10 น.

    ขากลับ ขบวน 14 รถด่วนพิเศษ จากต้นทาง สถานีรถไฟจังหวัดเชียงใหม่ วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เวลา 17:00 น. ถึงปลายทาง สถานีรถไฟกรุงเทพอภิวัฒน์ วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เวลา 06:00 น.

  2. เดินทางด้วยตัวเอง

    ขาไป นัดพบ ในวันศุกร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2568 เวลา 12.00 น. ที่ ร้านอาหารสวนผัก เลขที่ 61 หมู่ 3 ถนนสนามบิน ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ (ร้านอยู่ติดกับเซ็นทรัลแอร์พอร์ตเชียงใหม่) https://maps.app.goo.gl/jM64uge2SSMsQAA56

    ขากลับ วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 16:30 น. แยกย้ายที่สถานีรถไฟ หรือ สนามบิน เชียงใหม่

เงื่อนไขในการสมัครเข้าร่วมกิจกรรม

  • ลงทะเบียนและเข้าร่วมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
  • กิจกรรมนี้ขอสงวนสิทธิ์สำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป
  • อาสาสมัครที่เข้าร่วมต้องไม่มีปัญหาสุขภาพที่อาจกระทบต่อการเข้าร่วมกิจกรรม การนอนเต็นท์ การเดินทางโดยรถไฟ และกิจกรรมที่ต้องร่วมกันลงมือลงแรงทำงาน
  • อาสาสมัครที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมจะต้องยืนยันสิทธิ์เข้าร่วมด้วยการชำระเงินมัดจำ 1,000 บาท ภายในวันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2568 และจะได้รับเงินมัดจำคืนหลังการลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม ในวันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2568 (หากไม่สะดวกเข้าร่วมกิจกรรมจะไม่มีการคืนเงินทุกกรณี)

วิธีการสมัคร

  • กรอกใบสมัครเข้าร่วมกิจกรรมที่นี่
  • เราจะปิดรับสมัครในวันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม 2568 เวลา 12.00 น. และจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมทางเว็บไซต์ TCP Group ในวันพุธที่ 29 ตุลาคม 2568 โดยคัดเลือกจากการตอบคำถามที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมส่งมา
  • ทีมงานจะติดต่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกทางโทรศัพท์และแจ้งรายละเอียดกิจกรรมทางอีเมลที่ใช้สมัครเข้ามา
  • อาสาที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องโอนเงินมัดจำเพื่อยืนยันสิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรม
  • ผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่สามารถส่งต่อสิทธิ์ให้กับผู้อื่นได้ หากมีผู้สละสิทธิ์ทางคณะผู้จัดกิจกรรมจะติดต่อรายชื่อสำรองลำดับถัดไป
  • การคัดเลือกอาสาสมัครจะเป็นไปตามดุลยพินิจของผู้จัดและทีมงาน การตัดสินของคณะผู้จัดกิจกรรมถือเป็นที่สิ้นสุด

สิ่งที่ควรรู้ก่อนส่งใบสมัคร

  1. TCP Spirit ครั้งนี้ เราชวนอาสามาลงแรงช่วยชุมชนเก็บข้อมูลต้นไม้ในแปลงตัวอย่างที่ "บ้านป่าไผ่" อ.เวียงแหง ซึ่งต้องเดินเท้าเข้าป่า แดดร้อน เจอมด ทาก หรือแมลง และอื่นๆ อาสาจึงต้องเตรียมตัวและเตรียมรองเท้าที่เดินป่ามาให้พร้อม
  2. เส้นทางจากเชียงดาว ขึ้นป่าชุมชน "บ้านป่าไผ่" เป็นทางโค้งรัวๆ ระยะเวลา 2 ชั่วโมง ทีมงานมีเตรียมยาแก้เมารถ แต่ถ้าใครมีส่วนตัวก็พกมาได้เลย ส่วนสภาพอากาศปลายฝนต้นหนาว อาจมีทั้งลม ฝน หรือ หนาว ควรเตรียมเสื้อแจ็กเก็ตติดตัวมาด้วย
  3. ทริปนี้เราจะกางเต็นท์นอนริมดอย เรามีพร้อมทั้งเต็นท์และที่นอน แต่ถ้าอยากพกอุปกรณ์ส่วนตัวมาจอยเพื่อเพิ่มความสะดวกก็ได้เช่นกัน เช่น ไฟฉาย ถุงนอน เบาะรองนอน ผ้าเช็ดตัว หมอน ฯลฯ
  4. เพื่อลดการเกิดวัสดุเหลือใช้ ทางอาสาจะต้องเตรียมกระบอกน้ำที่สามารถล้างและนำกลับมาใช้ใหม่ได้ รวมทั้ง แปรงสีฟัน ยาสีฟันมาเองในการมาร่วมทริปครั้งนี้
  5. มีการทำประกันอุบัติเหตุให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน โดยผู้สมัครต้องยินยอมให้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อจัดทำประกัน
  6. ทุกคนจะต้องทำ THESIS เพื่อสรุปบทเรียนที่ได้จากการมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ โดยการทำอาสาสามารถเลือกประเภท THESIS ที่สนใจและสามารถส่งหลังจบทริปได้
  7. อาสาที่ผ่านการคัดเลือกจะต้องชำระค่ามัดจำ จำนวน 1,000 บาท ก่อนเข้าร่วมกิจกรรม และทางผู้จัดจะคืนค่ามัดจำให้หลังจบกิจกรรม

อ่านมาถึงตรงนี้ ถ้าคิดว่าพร้อมลุย ก็กดเข้าไปสมัครได้เลย!!